วันศุกร์ที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2551






ประวัติส่วนตัว


ดิฉันชื่อ : นางสาวณัฏฐธิดา นามสกุล มีมาก

ชื่อเล่น :กุ๊กไก่จัง

อายุ: 22 ปี

กิดวันที่ :21/12/1987

เรียนอยู่ที่:มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต

ปีที่: 4

E-mail: U49152792138@hotmail.com

วิชาทีชอบ :ภาษาอังกฤษ แต่เรียนคอมพิวเตอร์เพราะว่าไม่มีตัวเลือกใดที่ดีที่สุดแล้วถึงได้เลือก คอมพิวเตอร์ธุรกิจ วิชานี้ก็ชอบเพราะว่าคอมพิวเตอร์ในปัจจุบันเป็นที่นิยมและใช่กันมากในสังคมและเป็นสื่อนำความรู้ให้เรารู้อะไรในหลายๆด้าน เช่น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ข่าวสารต่างๆ การหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต ใช้ในการทำงานในองกรณ์ สะดวก ทันสมัย และอีกหลายๆอย่าง

สติประจำตัวคือ : ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ชีวิตเราควบคุมได้ขึ้นอยู่กับตัวเรา

อาหารจำพวก : ผลไม้ เงาะ ทุเรียน แอปเปิ้ล หรือ ไก่ทอด ก๋วยเตี๋ยว เป็นอาหารที่ชอบมาก

ดิฉันชอบ :สุนัขและแมว เพราะว่าเวลาอยู่กับพวกมันแล้วทำให้ไม่เหงาเลยสนุกมันเชื่อฟังกล่าวคนซ่ะอีก

อนาคต : ดิฉันอยากเป็นผู้บริหาร เปิดบริษัทเป็นของตนเอง

ความฝันตั้งแต่วัยเด็กคือ : อยากเป็นนักการฑูต และแอร์โฮสแตรส เพราะชอบภาษาอังกฤษมาก แต่เป็นเพราะความตั้งใจอาจจะมีน้อยเกินไปจึงทำตามความฝันไม่สำเร็จค่ะ

ดิฉัน : มีพี่น้องทั้งหมดรวมถึงตัวของดิฉันด้วยมีสองคน ดิฉันเป็นคนโต มีน้องสาวหนึ่งคน พ่อเสียชีวิตแล้ว ดิฉันอยู่กับแม่ แม่ลำบากมากที่ต้องหาเลี้ยงพวกดิฉัน ดิฉันจะตั้งใจเรียนและทำอนาคตให้ดีที่สุดเพื่อตอบแทนพระคุณแม่ค่ะ
ตายจากพระสงฆ์ ไปเกินเป็นตัวหนอนอยู่ในกองขี้ควาย
องค์หนึ่งก่อนตายมีอารมณ์ผ่องใส จิตใจไม่มีกังวล ตายไปจึงไปเกิดเป็นเทวดา ส่วนอีกองค์ก่อนตายมีอารมณ์มัว คือเศร้าหมองนิดหน่อย จิตใจจึงกระสับกระส่าย แต่อารมณ์ไม่ชั่ว ตายไปแล้วจึงไปเกิดเป็นหนอนตัวใหญ่อยู่ในกองขี้ควาย อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ให้ทำอารมณ์จิตให้ผ่องใส"จึงมีความสำคัญมาก เพราะถ้ามีอารมณ์เศร้าหมองถึงแม้ว่าจะนิดหน่อยก็ตาม อย่างในเรื่องนี้ก็ต้องไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน พระองค์ที่ไปเกิดเป็นเทวดาได้มาพิจารณาดูว่า เวลานี้เรามาเกิดเป็นเทวดามีวิมานเป็นที่อยู่ มีนางฟ้าเป็นบริวารหนึ่งพันองค์ ส่วนเพื่อนของเราเวลานี้ไปอยู่ที่ไหน มองไปด้วยความเป็นทิพย์ของเทวดา ก็เห็นเพื่อนเป็นตัวหนอนใหญ่อยู่ในกองขี้ควาย ก็นึกถึงสัญญาที่เคยมีกันไว้สมัยเป็นพระสงฆ์ด้วยกัน ท่านจึงแปลงเป็น นกกระยางขาวปลอดบินมายังเมืองมนุษย์ เห็นเพื่อนซึ่งเป็นหนอนตัวใหญ่กำลังกิน กำลังนอนแบบสบาย เรียกว่าที่กินที่นอนอันเดียวกัน มีความสุขอย่างที่ชาวบ้านเรียกว่า "หนูตกถังข้าวสาร" เพื่อนที่เป็นเทวดาทราบว่าหนอนเป็นสัตว์ที่มีอายุสั้น ถ้าตายจากหนอนเมื่อไร ด้วยอำนาจบุญเก่าที่ทำไว้ก็จะบันดาลให้เกิดเป็นเทวดาทันที จะมีวิมานและมีนางฟ้าหนึ่งพันเป็นบริวารเหมือนกัน นกกระยางขาวปลอดที่แปลงกายมา ก็ย่องเข้าไปใกล้ทำท่าจะจิกหนอน เพื่อทำลายซากให้หมดไป จิตของหนอนจะได้ไปเกิดเป็นเทวดา แต่หนอนตัวนั้นได้ร้องบอกว่า "ช้า ช้า เจ้าโจรร้ายจะมาทำลายชีวิตข้าเพื่อประโยชน์อะไร" นกกระยางจึงตอบว่า "เราเคยเป็นเพื่อนกันกับท่านสมัยบวชเป็นพระด้วยกัน และมีสัญญาเดิมกันไว้ว่า ถ้าใครมีความสุขต้องมาช่วยคนที่มีความทุกข์ เวลานี้ท่านเป็นหนอนอยู่ในกองขี้ควาย สมัยที่เป็นมนุษย์เราพากันรังเกียจว่าขี้ควายสกปรก และเหยียดหยามสัตว์เดรัจฉานว่าเป็นสัตว์ชั้นต่ำ เราจะทำลายซากภายนอกของท่านเพื่อให้จิตของท่านไปเกิดเป็นเทวดามีวิมานเป็นที่อยู่และมีนางฟ้าสวยๆเป็นบริวาร พระหนอนตอบว่า " เรามีความสุขกว่าบรรดามนุษย์ทั้งหลาย เพราะมนุษย์ต้องทำมาหากิน เหน็ดเหนื่อย ถูกติฉินนินทาว่าร้าย ถูกกลั่นแกล้ง มีความทุกข์นานาประการ แต่เรามีความสุขกว่าคนมากมาย เพราะว่าบ้านของเราเป็นอาหารของเราเสร็จ กินที่นี่นอนที่นี่ ที่นอนก็นุ่มนิ่นดี เป็นอาหารเสร็จไปในตัว ไม่ต้องกลัวอด ไม่มีความลำบาก"เป็นอันว่าพระหนอนไม่ต้องการให้ทำลายร่างกายของตน เพราะพอใจแบบนั้น เพื่อนที่แปลงตัว เป็นนกกระยางขาวปลอดก็ต้องบินกลับไป...
อ้างอิง
พระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ).ตายไม่สูญแล้วไปไหน.กรุงเทพมหานคร:บริษัท สุพีเรียพริ้นติ้งเฮาส์ จำกัด ,2547